นวัตกรรม RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง

นวัตกรรม RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง

ในช่วงไม่กี่ปีมานี่ Uniqlo Japan ได้มีการใช้ระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง หากไปลองค้นดูจะพบว่า เป็นการนำสินค้าใส่ตะกร้า และวางลงในจุดชำระค่าสินค้า จะมีรายการขึ้นที่หน้าว่าได้ทำการซื้อสินค้าชิ้นใดบ้าง กี่ชิ้น รวมเป็นราคาเท่าไหร่ ซึ่งหลายคนรู้สึกแปลกใหม่กับระบบนี้ เพราะเป็นการชำระสินค้าที่เร็ว ลดความผิดพลาด และลดการใช้พนักงาน จวบจนมีคำถามว่าระบบนี้ทำได้อย่างไร ด้วยคำถามที่น่าสนใจเหล่านั้น เราจะมาลองดูกันว่า หลักการทำงาน และการปรับใช้ระบบ RFID สามารถนำมาประยุกต์เป็นระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง (Self Checkout) ได้อย่างไร

นวัตกรรม RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเองทำงานอย่างไร

ก่อนอื่นต้องขอย้อนกลับไปถึงที่มาว่า RFID คืออะไร เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใจหลักการคร่าวๆเกี่ยวกับระบบ RFID กันก่อน เมื่อทราบหลักการแล้ว เมื่อเราอธิบายหลักการทำงานจะได้เข้าใจได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

RFID คืออะไร ?

RFID (Radio-Frequency Identification) เป็นระบบเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ มีการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในคลื่นสัญญาณวิทยุในความถี่ต่างๆเพื่อคลื่นพาหะเพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ RFID นั้นเป็นชื่อเรียกรวมๆ รูปแบบการสื่อสารในแต่ละความถี่คลื่นวิทยุ ก็จะมีชื่อต่างกันไปตามแต่เทคโนโลยี

โดยปกติ RFID มีลักษณะหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (RFID Tag) บัตร RFID ที่เราใช้เป็นบัตรพนักงาน ที่สามารถอ่านกับเครื่องลงเวลา หรือบัตรเครดิตบางประเภท ก็มีการนับเป็น RFID ด้วยเช่นกัน เช่นกลุ่มบัตร NFC / Paywave

โดยปกติแล้ว RFID ในการทำงานจะต้องมีอุปกรณ์ tag / card และ หัวอ่านต่าง ๆ (RFID READER)ในการทำงานคู่กัน โดยหัวอ่านและอุปกรณ์จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยี ที่มีคลื่นตรงกันในการใช้งาน

เมื่อเรามองเห็นภาพตัวอย่างการใช้งาน เราจะเห็นได้ว่าจริงๆแล้ว อุปกรณ์ RFID นั้น เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ และมีการใช้ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ว่าสิ่งนั้นก็เป็นอุปกรณ์ RFID เท่านั้นเอง

นวัตกรรม RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง

การปรับใช้ RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง

นวัตกรรม RFID กับระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง

เราไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้ว ระบบยูนิโคล่ที่ญี่ปุ่นทำงานอย่างไร แต่เราคิดว่าหลักการน่าจะเป็นการทำงานของ RFID เนื่องจากทำได้ไม่ยุ่งยากมากนัก

หลักการทำงานของระบบ RFID เพื่อใช้ในระบบชำระสินค้าด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรซับซ้อนเป็นการนำ RFID Tag ในรูปแบบป้ายสินค้าแบบต่างๆติดกับอุปกรณ์ โดยจะมีขั้นตอนในการทำงานดังนี้

การติดตั้ง RFID Tag ป้ายสินค้า

การติดตั้ง RFID Tag ป้ายสินค้า ให้กับสินค้านั้น เราสามารถเลือก Tag ให้เหมาะสมกับสินค้าได้ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยใน RFID นั้นจะมีรหัส ID เฉพาะตัว หรือจะเป็นรูปแบบ Write tag ให้เป็นเลขเดียวกันเหมือนบาร์โค้ดก็ได้ ตามแต่ที่ท่านจะออกแบบระบบ  นำ tag ไปติดตั้งกับสินค้า

การลงทะเบียนสินค้าผ่าน RFID / ติดตามสินค้าด้วยระบบ RFID

หากเราทำระบบที่ซับซ้อน เราจะนำ tag ที่ติดกับอุปกรณ์มาลงทะเบียน ผ่านหัวอ่าน RFID เมื่อหัวอ่าน อ่านค่า ID ให้ท่านลงทะเบียนสินค้า เช่น สินค้าเป็นเสื้อสีแดง แบบ A เป็นต้น  หากเราซ้ำๆ แบบแยก ID เราจะเห็นได้ว่าสินค้ามีกี่ชิ้น ขายออกไปแล้วกี่ชิ้น ทำให้บริหารสินค้าคงคลังได้ภายในการทำงานเพียงครั้งเดียว

การชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID

เมื่อนำสินค้าที่มี RFID Tag ไว้ในช่องที่มีหัวอ่าน หัวอ่านจะอ่านค่า tag ทั้งหมด ทำให้ทราบได้ว่า ในตะกร้า หรือช่องดังกล่าว มีสินค้าใดบ้าง รวมเป็นเงินเท่าไหร่ เนื่องจากทั้งหมดได้ผ่านการลงทะเบียน ในขั้นตอนก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว

จริงๆแล้ว RFID Tag มีการประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม หลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มการบริการคลังสินค้า ดังนั้นการนำ RFID Tag มาประยุกต์ใช้ในการชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID จึงเป็นเรื่องที่ต่อยอดทางเทคโนโลยี การพัฒนาระบบนี้มีข้อดีมากมาย ตัวอย่างข้อดีในการใช้การชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID คืออะไร เราจะยกตัวอย่างในหัวข้อถัดไป

ข้อดี จุดเด่น โอกาสทางธุรกิจ สำหรับการชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID

เราต้องยอมรับว่าหลังจาก วิกฤตโรคระบาด โควิด หลายคนมีความตื่นตัวในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการสัมผัส เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ จึงทำให้ระบบ ชำระค่าสินค้าด้วยตัวเอง ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น การนำระบบชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID เข้ามาช่วยใช้งานมีข้อดีมากมาย ยกตัวอย่างได้ดังนี้

หลีกเลี่ยงการสัมผัส

ดังที่ได้กล่าวไปว่าการหลีกเลี่ยงการสัมผัส เป็นการลดการแพร่เชื้อของโรคติดต่อมากมาย ทำให้มีหลายคนมีการระมัดระวังการใช้บริการในที่สาธารณะ การหยิบจับเงิน สิ่งของร่วมกับคนอื่น การใช้ระบบชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID จะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่มีคนอื่นในระยะการชำระเงิน ไม่มีการสัมผัสสิ่งของร่วมกัน

ความเร็วในการให้บริการ

เดิมการชำระสินค้าด้วยบาร์โค้ดจะต้องมีการสัมผัสสินค้า การหา barcode การรออ่านบาร์โค้ดทีละชิ้น แต่สำหรับการชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID หัวอ่านสามารถอ่านได้ทั้งหมด ในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ลดระยะเวลาในการชำระค่าสินค้าไปได้มาก

ลดความผิดพลาดในการให้บริการ

เพราะการใช้คนตรวจสอบชำระค่าสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ดแบบเดิม มักมีปัญหาการพลาดที่จะชำระค่าสินค้าชิ้นเล็กๆที่ตกหล่น หรือการอ่านบาร์โค้ดซ้ำจากปัญหาอุปกรณ์ แต่การชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID แต่ละ tag มีเลขเป็นของตัวเอง จะไม่เห็นสินค้าซ้ำกัน ไม่มีการตกหล่นของสินค้าขนาดเล็กอีกต่อไป

การบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างรวดเร็ว

เพราะการใช้ระบบชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID ต้องมีการลงทะเบียนสินค้ากับ tag ทุกชิ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสินค้านั้น ยังมีอยู่ หรือถูกขายไปแล้ว เมื่อสินค้านั้นใกล้หมด ระบบสามารถแจ้งเตือนได้ตามการตั้งค่าของคุณ ทำให้การจัดการบริการสต็อกเป็นไปได้ง่าย

ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านก็จะเห็นได้ว่ระบบชำระค่าสินค้าด้วยตัวเองผ่านระบบ RFID ลดการใช้พนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพจากการทำงานผ่านระบบหัวอ่านและ tag การใช้งานคนลดลง ก็ลดต้นทุน ลดความผิดพลาด ลดการเกิดความเสียหายได้นั้นเอง